ตุงไชย

 ตุงไชย

ตุงไชยเป็นเครื่องหมายบอกถึงชัยชนะและสิริมงคลทำได้โดยทอจากเส้นด้ายหรือเส้นไหมสลับสี ( บางทีอาจมีไม้ไผ่ดั่นเป็นช่วง ๆ ) เป็นรูปเรือหรือลวดลายต่าง ๆ เช่น ลายประจำยาม ลายปราสาท ลายเครือเถา ลายต้นไม้ ลายคน ลายสัตว์ ลายดอกไม้ ฯลฯ

ส่วนตรงหางตุงจะมีเส้นฝ้ายถักเป็นรูปตาข่ายห้อย ลงมาแล้วประดับด้วยอุบะซึ่งเป็นพู่ห้อยหลากสีสวยงาม กล่าวกันว่าหากทอผ้าตุงไชยได้มีความยาวมากเท่าใดก็จะยิ่งได้อานิสงส์ผลบุญมากเท่านั้น และหากใครให้ทานตุงไชยในพระพุทธศาสนา เมื่อตายไปจะได้ไปไหว้พระเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ หรือหากแม้สร้างเวรกรรมมากมายเมื่อยังมีชีวิตอยู่แล้วตายไปตกนรก ชายตุงไชยที่เคยทำพิธีทานไว้ก็จะกวัดแกว่งให้วิญญาณได้เกาะขึ้นพ้นขุมนรก กรแขวนตุงไชยนี้หากมีขนาดใหญ่หรือมีความยาวมาก ก็มักใช้ไม้ไผ่ลำโตทำเป็นเสาตุง ส่วนหัวของตุงไชยที่จะแขวนไว้กับเสานิยมทำเป็นโครงรูปปราสาทหรือวงกลมสามห่วง ใช้ไม้ฉลุหรือไม้ไผ่ขดมัดเป็นโครงให้แข็งแรง แล้วผูกกับค้างตุงซึ่งเป็นส่วนปลายเสา ลำไม้ไผ่ที่ใช้เป็นคันตุง ค้างตุงนี้ต้องทำให้หมุนได้ พราะเมื่อตุงถูกลมพัดจะได้ไม่พันตัวเองชาวไทลื้อก็นิยมทำตุงไชยนี้เช่นกัน โดยนิยมทอด้วยเทคนิคการขิดหรือจกซึ่งมีลวดลายวิจิตรบรรจง และพิเศษตรงที่ส่วนล่างสุดมักนิยมทอเป็นรูปปราสาท มีรูปต้นไม้ นก คน ม้า ช้าง ฯลฯ ล้อมอยู่ และมีรูปสิ่งของ เครื่องใช้ เช่น น้ำต้น (คนโท) ขันดอก (พานดอกไม้) ฯลฯ โดยแต่ละช่วงของลวดลายจะคั่นด้วยการสอดไม้ไผ่เป็นปล้องๆ ส่วนลวดลายช่วงบนอาจเป็นรูปเรือ ช้าง ม้า นก หงส์ นาค ต้นไม้ ดอกไม้ ฯลฯ ตุงไชยนี้นอกจากจะทำเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแล้ว ยังเป็นเครื่องหมายบอกให้รู้ว่า ในบริเวณนั้นจะมีงานฉลองสมโภช โดยจะมีกรปักตุงไชยไว้ห่างกันประมาณ ๘-๑๐ เมตร เป็นแนวสองข้างถนนบริเวณที่มีงาน และยังใช้ร่วมในขบวนแห่ต่าง ๆ ด้วย


ความคิดเห็น